วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

ไม้หอม

สายหยุดแดง
                สายหยุดแดง เป็นไม้ดอกหอมใน วงศ์กระดังงา ANNONACEAE ที่พยายามตามหาสายพันธุ์ที่ดอกมีสีแดงแท้ๆ มานานพอสมควร เพราะส่วนใหญ่มักใจอ่อน (ยอมเชื่อใจพ่อค้าแม่ค้าที่ยืนยันว่า ดอกสีแดงแน่นอน เลยยอมซื้อต้นพันธุ์มาแบบยังไม่มีดอก) สุดท้ายก็ช้ำใจ ได้มาแต่สายหยุดดอกสีเหลืองส้มๆ ยังไม่เคยเจอดอกสายหยุดแดงแบบสีแดงจริงๆ เลยสักครั้ง 
                การปลูกสายหยุดแดง ควรปลูกเลี้ยงในบริเวณที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ เป็นไม้ดอกหอมที่ชอบแดด แต่ต้องคอยดูแลไม่ให้ขาดน้ำด้วยนะคะ หมั่นตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่มก็จะสามารถยืนต้นได้เอง หรือสามารถปลูกเลี้ยงแบบปล่อยให้เลื้อยพันซุ้ม หรือต้น
                โนรา เป็นไม้รอเลื้อยดอกหอม เลื้อยได้ไกล 2-4 เมตร แตกกิ่งยืดยาวจำนวนมาก กิ่งเหนียวมาก
                ใบโนรา เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปไข่ ยาว 10-15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบหนาและเหนียวคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน
                ดอกโนรา จะออกดอกที่ปลายกิ่ง ออกดอกเป็นช่อ ดอกสีขาวอมชมพู กลีบดอกมี 5 กลีบและมีขนยาว กลีบใหญ่จะมีประสีเหลือง มีเกสรยาว
                ดอกโนรา จะออกดอกในช่วงหน้าหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม กุมภาพันธุ์ ดอกย่อยทยอยบานทั้งช่อ และ บานได้นาน 3-4 วันจึงโรย ส่งกลิ่นหอมโชยตลอดทั้งวัน กลิ่นหอมชื่นใจมาก
                ผลโนรา เป็นผลรูปกลม มีปีก 3 อันประกบกัน เมื่อผลแก่หลุดร่วงจะหมุนลงสู่พื้น หากลมพัดจะปลิวไปได้ไกลยิ่งขึ้น
                การปลูกเลี้ยงโนรา ต้องปลูกกลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ กิ่งที่อยู่กลางแดดจัด ได้รับแสงแดดเต็มที่จะออกดอกได้มากกว่ากิ่งที่อยู่ในร่ม ควรตัดแต่งกิ่งให้เป็นทรงพุ่มโปร่งและเป็นระเบียบ จะออกดอกได้ดกและสวยงาม
เกล็ดกระโห้

เกล็ดกระโห้ : Clusia rosea Jacq.
ชื่ออื่น : Copey Clusia
วงศ์ : วงศ์ GUTTIFERAE (CLUSIACEAE)
                เกล็ดกระโห้ ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 2-3 เมตร ทรงพุ่มกลมโปร่ง เนื้อไม้เหนียว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ รูปไข่กลับ แผ่นใบหนา เหนียวคล้ายแผ่นหนัง ใบสีเขียว ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่าง ทั้งด่างเหลืองและด่างขาว
                ดอกเกล็ดกระโห้ ออกดอกเดี่ยว หรือออกเป็นกระจุก 1-3 ดอก ดอกสีชมพูอมม่วง ออกดอกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกหนา มี 6 กลีบ เมื่อดอกบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร ทยอยบานหรือบานพร้อมกันสองดอก ดอกเริ่มแย้มและบานอยู่ได้ 2-3 วันแล้วโรย ส่งกลิ่นหอมอ่อนตลอดวัน ออกดอกตลอดทั้งปี
                เกล็ดกระโห้ เป็นพันธุ์ไม้จากต่างประเทศแต่สามารถปรับตัวได้ดีในประเทศไทย สามารถปลูกในกระถางขนาดใหญ่หรือปลูกลงแปลงกลางแจ้งก็ได้ (ต้นที่มีใบสีเขียวสามารถปลูกกลางแจ้งได้ แต่ต้นที่มีใบด่าง ควรปลูกในที่มีแสงแดดครึ่งวัน หรือ รำไร
 อรัญญิการ์

อรัญญิการ์ : Faradaya splendida F.Muell.
ชื่อสามัญ : Glory Vine
วงศ์ : LABIATAE (LAMIACEAE)
                อรัญญิการ์ เป็นไม้เลื้อยดอกหอม อายุหลายปี เลื้อยได้ไกลถึง 10 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงข้ามเป็นคู่ รูปรี ยาว 18-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน แผ่นใบค่อนข้างบางและเหนียว
                ดอกอรัญญิการ์ ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกย่อย 10-20 ดอก ดอกสีขาว กลีบดอก 4 กลีบ เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร
                การขยายพันธุ์อรัญญิการ์ ใช้วิธีการปักชำกิ่งและตอนกิ่ง
                การปลูกอรัญญิการ์ ควรทำซุ้มให้เลื้อยไต่และควรปลูกกลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดเต็มที่ หมั่นตัดแต่งยอดอยู่เสมอ จะให้ทรงพุ่มที่เป็นระเบียบและออกดอกได้ที่มา : อ้างอิงเพื่อการศึกษา :
แย้มปีนัง, บานทน
แย้มปีนัง : Strophanthus gratus Franch
 ชื่ออื่น : บานทน, หอมปีนัง, Climbing Oleander, Rose Allamanda
วงศ์ : วงศ์โมก (APOCYNACEAE)
                แย้มปีนัง ไม้ดอกหอมในวงศ์โมก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 2-3 เมตร แตกกิ่งจำนวนมาก ทรงพุ่มกลมทึบ มียางขาวทุกส่วน ใบเดี่ยวออกตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปไข่จนถึงรูปรี แผ่นใบหนาสีเขียวเข้มเป็นมัน
                ดอกแย้มปีนัง ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกสีม่วงแดงอมชมพู มีดอกย่อย 5-8 ดอก รูปแตร โคนกลีบดอกเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขอบกลีบดอกมีรอยจีบและหยักเว้า เมื่อดอกบานจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร แต่ละช่อทยอยบาน ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดทั้งวัน
                การปลูกแย้มปีนัง สามารถปลูกใส่กระถางขนาดใหญ่ได้ ตั้งไว้กลางแจ้ง หรือปลูกลงดินกลางแจ้ง จะออกดอกได้เต็มที่
 ยี่เข่ง

 ยี่เข่ง : Lagerstroemia indica L.
ชื่อสามัญ : Crape myrtle, Indian lilac, Crape flower
ชื่อพื้นเมือง : คำฮ่อ
                ยี่เข่งเป็นไม้ที่ชอบแดด มีอยู่หลายสีเหมือนกัน
                ยี่เข่งดอกขาว จะมีกลิ่นหอม
                
ยี่เข่ง เป็นไม้ประเภทเลี้ยงง่ายตายยาก ยิ่งตัดยิ่งแตกกิ่ง
                 ส่วนสีนี้ กลิ่นไม่หอมเหมือน ยี่เข่งดอกขาว
                ยามดอกบาน สวยไม่แพ้ต้นไม้อื่นค่ะ
               
               
สรุปว่า ยี่เข่งเป็นไม้ที่น่าเลื้ยงอีกสายพันธุ์ ยิ่งมีที่กว้างๆ ปลูกไว้เป็นแนว                                                                                    
                                                                ลั่นทม (
Lan Thom )


ลั่นทม (
Lan Thom ) : Plumeria acuminata Art.
ชื่ออื่นๆ : กะเหรี่ยง กาญจนบุรี : จงป่า (Chong-pa), ภาคเหนือ : จำปาลาว (Champa-lao), อีสาน : จำปาขาว (Champa-Khao), เขมร : จำไป (Cham-pai), ภาคใต้ : จำปาขอม (Champa-khom), ยะลา : ไม้จีน (Mai-Chin), มลายู-นราธิวาส : มอยอ (Mo-yo)
               
                ชื่อสามัญ : Temple tree , Pagoda tree , Frangipani
                วงศ์ : วงศ์โมก (
APOCYNACEAE)
                ลั่นทม Lan Thom ไม้ดอกหอมจากต่างประเทศ ลั่นทมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นเกลี้ยงเกลาใบโตหนามียางมาก ดอกสีหลายสี สีขาว เหลืองนวลๆ สีแดง เป็นไม้ออกดอกเวลาทิ้งใบ
ที่มา :
๑. หนังสือไม้ดอกหอม (Fragrant and aromatic plants) ฉบับปรับปรุงและเพิ่มเติม / ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น พิมพ์ครั้งที่ 2 สำนักพิมพ์บ้านและสวน
๒.
http://www.fragrantfloweringplants.com/
๓. http://www.tistr.or.th 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น